เสียงฝนตกกระทบหลังคาโรงรถที่เป็นเมทัลชีท เสียงฟ้าร้อง ตอนใกล้สว่างของเช้าว้นหนึ่ง ทำให้ผมตกใจตื่น แล้วนอนฟังเสียงนั้น มันไม่ใช่แค่เสียงฝนตก แต่มีเสียงของเขียด อื่งอ่าง ร้องระงมด้งพอๆกับเสียงฝน มันเป็นฝนแรก ๆ ของฤดู ฝนทำให้สรรพสิ่งกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากที่ต้องแห้งแล้งกับฤดูร้อนที่โหดร้าย หลายชีวิตต้องตายลง ต้นไม้ที่เคยเหี่ยวเฉา พรุ่งนี้คงสดชื่นกับน้ำฝนที่ร่วงกระหน่ำลงมา ต้นหญ้าจะงอกเงย ชีวิตฤดูใหม่ดูเหมือนจะเริ่มแล้ว ทั้งคน สัตว์ พืช
เสียงของอึ่งอ่างที่ร้องมาพร้อมๆกันหลายเสียงผ่านทางหน้าบ้าน ทำให้ผมคาดเดาได้ไม่ยากนักว่า มันถูกจับแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงมันจะกลายเป็นอาหารของคนหรือไม่ก็เป็นสินค้าในตลาด อึ่งอ่าง อาหารของคนบ้านนอกแต่ไหนแต่ไร เสียงผ่านมาหลายรอบแล้ว เลยลุกไปยืนดูที่หน้าต่าง ผู้คนใช้ไฟฉายส่องกราดไปรอบๆ เพื่อตามหาเจ้าของเสียง ที่ออกมารับน้ำฝน ค้นหาชีวิตเพื่อนำไปเลี้ยงต่อชีวิตให้กับคน มันไม่ยุติธรรมเสมอสำหรับผู้ถูกล่า คนที่เดินหาก่อนหลังจากฝนซา ก็คงได้ไปเยอะ คนที่มาทีหลัง ก็ค้นหากันต่อไป เพราะมันคืออาหาร คือเงินที่จะนำมาจุนเจือครอบครัว แบบไม่ต้องลงทุนอะไรมากนัก มันเป็นวิถีชีวิตของคนบ้านนอก เศรษฐศาสตร์แบบบ้าน ๆ ที่มีมานาน และจะมีต่อไปตราบเท่าที่สังคมเมืองยังไม่เข้ามาแทรกแซง
ฝนตกทำให้นึกถึงสมัยเด็ก ๆ บ้านเราแม้จะอยู่ติดถนนชื่อใหญ่โต แต่ก็เป็นบ้านนอกที่รอบบ้านรายล้อมด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ หนองน้ำ ทุ่งนา หนองน้ำที่เอ่ยถึงคือหนองน้ำที่เกิดจากการขุดดินเพื่อสร้างถนน สายใหญ่ที่ว่า หน้าบ้าน มันลึกระดับเอวถึงอก หน้าแล้งมันจะแห้งผากแตกระแหง และแน่ล่ะ มันเป็นที่วิ่งเล่นของพวกเราด้วย ขณะเดียวกัน ใต้ผืนดินนั้น มีชีวิตที่แอบซ่อนอยู่ หอยขม และเขียด ที่ใคร ๆ รวมถึงผมที่ด้วยชอบใช้เสียมขุด งัดขึ้นมากเพื่อค้นหาเจ้าสิ่งมีชีวิตนั้นไปเป็นอาหาร หน้าฝนหลังฝนตกหลาย ๆ ห่า น้ำจะขังอยู่เต็มปริ่มขอบหนอง แล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ไม่นานจะมีปลา กุ้ง หอย เกิดขึ้นมา ไม่รู้มาจากไหน เริ่มมีต้นไม้น้ำงอกเงย ผักแว่น ดอกบัวสีม่วงเกือบสีน้ำเงิน ที่พวกเราเรียกมันว่า ดอกป๊าน ก็เริ่มงอกออกมาให้เห็น เจ้ากบตัวงาม ๆ ก็เริ่มเห็นมาเกาะบนใบบัว ล่อตาล่อใจให้พวกเราเด็ก หาเรื่องที่จะเอามันขึ้นมากให้ได้
ช่วงต้นของงฤดู เมื่อน้ำเริ่มขัง ความชุ่มของดินทำอึ่งอ่าง รวมถึงกบ ด้วย จะออกจากการจำศีล หาอาหาร หาคู่ ร้องระงม จริง ๆ ไม่น่าจะเรียกว่าการร้อง เอาเป็นว่าเรียกอย่างนี้ไปก่อนก็แล้วกัน จับคู่กันลงไปวางไข่ในน้ำที่ขังอยู่ อีกไม่นาน ลูกของกบ และ อึ่งอ่าง ซึ่งในตอนแรกหน้าตาไม่เหมือนพ่อแม่เลย จะออกจากไข่มาแหวกว่ายน้ำให้เห็น พวกเราเรียกลูกของอึ่งอ่าง ว่า ฮวก หรือ อีฮวก ส่วนลูกของกบ เรียกว่า ฮวกกบ ไม่รอดที่จะถูกสวิงช้อนตักมาเป็นอาหารของคนบ้านนอกอย่างพวกเรา ยังมีเหล่าลูกของแมงปอ ที่เรียกว่า อีเนี่ยว แมงกระดอบ กุ้ง หอย ปู ปลา รวมถึงพวกกินไม่ได้อย่าง ปลิง ที่พวกเราไม่ค่อยจะชอบสักเท่าไหร่ ก็จะเริ่มมีให้เห็นหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ชีวิตมาพร้อมกับสายฝนจริง ๆ
หน้าฝนไม่ได้ให้ชีวิตแต่เฉพาะสัตว์ที่อยู่ในน้ำเท่านั้น บนบกพอเริ่มฝนแรก เหล่าแมลงต่าง ๆ ก็ขุดดินออกมาเหมือนกัน แมงเม่า แมงมัน แมงจอน หรือ แมงกระชอน รวมถึงสัตว์อื่น ๆ จะพากันพาเหรดออกมาชมโลกอันสวยงามนี้อย่างพร้อมเพียงกัน เหล่าต้นไม้ใบหญ้าก็งอกแตกใบออกจากดินที่เคยแห้งแล้ง ผักพื้นบ้านจากธรรมชาติ ผักจากป่า ก็เริ่มมีวางขายในตลาด
ดูเหมือนหน้าฝนนับแต่ฝนแรกจนกระทั่งสิ้นฤดู จะมีชีวิตชีวามากกว่าฤดูไหน ๆ รอยยิ้มของผู้คนที่เปื้อนน้ำฝน น่าดูยิ่งนัก คงเพราะปัจจัยสี่ ปัจจัยหนึ่งที่เคยหายากในหน้าแล้ง มาถึงตอนนี้ มีให้เห็นอยู่มากมาย เดี๋ยวก็คงได้เริ่มทำไร่ ทำนา ทำสวน กันอีกแล้ว ผู้คน สัตว์ พืช เริ่มต้นสะสมเสบียงสำหรับตนเอง สำหรับปีนี้กันแล้วเมื่อน้ำแห่งชีวิต ประพรมลงมา ฝน คำเรียกสั้น ๆ พยางค์เดียว แต่ความหมายกว้างขวาง ลึกซึ้งมากมาย เกี่ยวข้องกับทุกชีวิต บนโลกใบนี้ ฝน น้ำแห่งชีวิต
-ตถตา- /11 พฤษภาคม 2561/
-ตถตา- /11 พฤษภาคม 2561/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น